Web Hosting คือ ? | สิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

ในยุคดิจิทัลนี้การจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองนั้นทำได้ง่าย ๆ แต่จะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพ และผู้คนสามารถเข้าถึงได้ สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือเราต้องนำหน้าเว็บไซต์ของเราไปฝากที่ Web Hosting นั่นเอง วันนี้ READY IDC จึงจะพาไปดูกันว่า Web Hosting คืออะไร ?

 

Web Hosting คือ รูปแบบของการให้บริการที่ให้ผู้ใช้งานนำเว็บไซต์หรือโฮมเพจออนไลน์ของตนเองมาลงบนโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฏต่อสาธารณะและสายตาคนทั้งโลกได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ (Domain Name) ก็เจอเว็บไซต์ของตัวเองแล้ว ในเว็บบราวเซอร์ทุกเว็บไซต์ที่ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตล้วนแต่จะต้องฝากไฟล์เว็บ รวมถึงฐานข้อมูล และไฟล์อื่น ๆ ไว้กับเว็บเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ โฮสติ้งที่ดีควรใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้รวดเร็วจากทุกมุมโลก Web Hosting คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เก็บไฟล์ของเว็บไซต์เราไว้ และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คนสามารถเข้าชมเว็บไซต์เราได้ตลอดเวลา เปรียบเทียบง่าย ๆ Web Hosting คือ “บ้าน” ของเว็บไซต์ของเรานั่นเอง เพราะฉะนั้น Web Hosting คือ สิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

นอกจากความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์แล้วเสถียรภาพของเซิร์ฟเวอร์และครือข่ายข้อมูล รวมทั้ง ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันและที่สำคัญที่สุดการเลือกใช้ผู้ให้บริการที่ดีของ Web Hosting คือ จะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคต่าง ๆ ในการดูแลระบบ สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็วและติดต่อได้สะดวก ดูแลแบบ 24×7 อย่าง ReadyIDC

 

Web Hosting มีกี่ประเภท แล้วประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานของเว็บไซต์เรา

เว็บโฮสติ้งโซลูชั่นมีหลายประเภท เราควรเลือกโซลูชั่นให้เหมาะกับเว็บไซต์ของเราประเภทของ Web Hosting คือ 3 ประเภท

ดังนี้

1.Shared Web Hosting

Shared Web Hosting คือ ที่เรารียกกันอีกชื่อว่า Virtual Hosting เป็นการฝากเว็บไซต์ไว้กับ Web Server ที่ให้บริการเว็บไซต์ของลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง จึงเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ด้วยเหตุนี้ shared hosting จึงมีข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งในด้านของ Traffic และชนิดของ software หรือ script ที่สามารถใช้ได้

ข้อเสียของ Shared Web Hosting คือ เมื่อเว็บไซต์ที่แชร์ hosting เครื่องเดียวกันกับเว็บไซต์เรา ที่มีการใช้ CPU หรือ bandwidth มากเกินไป ดังนั้นเว็บไซต์ของเราอาจโหลดช้าลงได้ เพราะมีการแย่งทรัพยากรกันเกิดขึ้น

VPS hosting แก้ปัญหานี้โดยการ “จำกัด” การใช้ทรัพยากรของเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ไว้ ต่อให้เว็บไซต์คนอื่นใช้ทรัพยากรสูงมาก ๆ ก็จะไม่กระทบกับเว็บไซต์เรา

เปรียบเหมือนการอยู่คอนโดมีห้องเป็นของตัวเอง คุณยังอาศัยอยู่ในตึกเดียวกันกับคนอื่น ๆ ก็คือมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง ข้อดีคือเว็บไซต์ของเราจะมีความเสถียรมากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นเช่นกัน

 

2.Virtual Private Servers (VPS) Hosting

VPS Hosting ย่อมากจาก Virtual Private Server Hosting เป็นการจำลองแบ่งเครื่อง Server ประสิทธิภาพสูง ออกเป็น Server เป็นเสมือนจำนวนหนึ่ง โดย Server แต่ละตัวนี้จะถูกเรียกว่า Virtual Machine และทำงานได้เหมือนกับ Dedicated Server 1 เครื่อง VPS แต่ละเครื่องนี้จะแยกการทำงานออกจากกันโดยสิ้นเชิง ถ้า VPS ตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย จะไม่มีผลกับการทำงานของ VPS ตัวอื่น ๆ ในระบบ ข้อดีของ VPS Hosting คือสามารถปรับเปลี่ยน Configurations ของซอฟท์แวร์ต่าง ๆ เช่น Apache, IIS, PHP, Perl modules, MySQL และ อื่น ๆ ได้อย่างอิสระนอกจากนี้ ราคาของ VPS Hosting ก็ประหยัดกว่าการติดตั้ง Web Server เอง แต่ข้อเสียของ VPS Hosting คือไม่สามารถรองรับ Traffic ที่เท่าวาง Server เอง

 

3.Dedicated Hosting and Collocated Hosting

โซลูชั่นนี้ของ Web Hosting คือ โซลูชั่นที่แพงที่สุด เหมาะสำหรับเว็บที่ Traffic สูงมาก เว็บที่ต้องการ uptime สูงเป็นพิเศษ หรือเว็บที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลมาก เพราะ Dedicated hosting คือเว็บโฮสติ้งที่ host เฉพาะเว็บไซต์ของคุณไว้ในเครื่อง (ไม่มีเว็บไซต์ของคนอื่นเจือปน)

ข้อแตกต่างระหว่าง Dedicated Hosting และ Collocated Hosting คือแบบแรกเป็นการเช่าหรือเช่าซื้อเครื่อง Server ที่วางที่ IDC แต่แบบหลังเป็นการนำ Server ของเราเองไปวางที่ IDC โดยเสียค่าเช่าพื้นที่วางตามที่ตกลง ข้อดีของโฮสติ้งโซลูชั่นนี้คือสามารถลองรับเว็บขนาดใหญ่ได้ มีความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น เนื่องจากเป็นเจ้าของทั้ง Hard Disk แต่ข้อเสียคือมีราคาแพงและอาจจะต้องจ้าง System Admin มาดูแล หากขาดความรู้เรื่องระบบหรือไม่มีเวลา

เมื่อมีโดเมนแล้วต่อมาคุณก็ต้องเลือกเว็บโฮสติ้งเพื่อนำเว็บไซต์ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต ราคาไม่ใช่ตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของโฮสติ้งเสมอไปความเสถียรของโฮสต์และบริการหลังการขายต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเว็บโฮสติ้ง

 

ผู้ให้บริการที่ดีและมีประสิทธิภาพของ Web Hosting คือ

1.เรื่องความเร็วและความเสถียรของโฮสต์

นอกจากความเร็วของโฮสต์แล้วความเสถียรของโฮสต์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โฮสต์ที่ดีควรมีค่า uptime อย่างน้อย 99% หรือถ้าให้ดีควร 99.5% ขึ้นไป หากเซิร์ฟเวอร์ที่เราใช้นั้นเสียหาย หรือมีเหตุที่ทำให้ใช้การไม่ได้บ่อยครั้ง นั่นก็จะทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไม่สามารถเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจแล้ว ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของธุรกิจของเราจะแย่ไปด้วย

2.เว็บคอนโทรลพาแนล

ผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ดีควรมีเว็บคอนโทรลพาเนลให้ลูกค้า และควรเป็นคอนโทรลพาเนลที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน

3.การบริการหลังการขาย (24×7)

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีจะต้องติดต่อได้ตลอดเวลาเมื่อโฮสต์เกิดปัญหา นอกจากการตอบสนองที่รวดเร็วแล้วผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งจะต้องมีความเชี่ยวชาญด้าน

เทคนิคพอสมควร เพราะคงไม่มีใครอยากฝากเว็บไซต์ ไว้กับมือสมัครเล่น ที่ขายของเป็นอย่างเดียว แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย

4.ระบบที่รองรับ

เว็บของคุณจะใช้โปรแกรมภาษาอะไรในการพัฒนา ? ชนิดและจำนวนฐานข้อมูลที่ต้องการ ? จำนวน email account ที่ต้องการ ? สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยในการเลือกบริการเว็บโฮสติ้ง

5.ระบบสำรองข้อมูล

ผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ดีควรสำรองข้อมูลให้ผู้ใช้อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง อย่างสม่ำเสมอ

6.สำคัญที่สุดของการให้บริการ Web Hosting คือ ความปลอดภัย

ผู้ให้บริการโฮสต์ที่ดีต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกัน spyware, spam, viruses, DDoS attacks หรือ phishers อย่างไรก็ตามความปลอดภัยขึ้นกับผู้ใช้บริการเป็นสำคัญด้วย เช่น ควรตั้งรหัสต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลของเราปลอดภัย

 

ตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า Web Hosting คืออะไร มีความสำคัญยังไงกับเว็บของเรา และเลือกใช้ประเภท Web Hosting ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลบอกได้เลยว่า Web Hosting คือ สิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

หากใครกำลังมองหาเว็บโฮสติ้งที่ได้มาตราฐานมีประสิทธิภาพ บริการแบบ 24×7 เราขอแนะนำ บริการ Web Hosting จาก ReadyIDC

สามารถมาทลองใช้งาน Ready Hosting ฟรี 15 วัน

“READY Hosting” จาก READY IDC

ยินดีเป็นผู้ช่วยคนใหม่…ให้คุณ

สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ทาง

Email: sales@readyidc.com หรือ www.readyidc.com